เอาใจใส่ใจ
รู้สึกว่ายิ่งเขียนบล็อกยิ่งมีเนื้อหาหนักขึ้นทุกวัน ออกจะจริงจังกับชีวิตมากเกินไปแล้วด้วย สังเกตตอนแรกๆ จะมีบรรยากาศสบายกว่านี้ หรือเพราะตอนนั้นอยู่ในช่วงว่างงานเลยไม่มีเรื่องให้เครียดมากเท่า เวลาแต่ละวันหมดไปกับการนั่งมองนก มองฟ้า มองใบไม้ไหว
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เครียดเสียเมื่อไหร่ คิดแล้วเครียดและกดดันกว่าตอนนี้หลายขุมอยู่เหมือนกัน แต่เพราะไม่เก็บมาคิด เพราะคิดวนไปวนมาก็ไม่ทำให้ได้งานที่ต้องการเร็วขึ้น ซ้ำยังจะสร้างความกังวลให้กับตัวเองโดยไม่จำเป็นอีกต่างหาก
ใครๆ ก็มีความเครียดกันทั้งนั้น ถึงน้อยนิดถ้าใส่ใจไว้คิด ก็กลายเป็นเรื่องเครียดมหึมาให้ใจได้เหมือนกัน ใช่ว่าไม่รู้ตัวกัน แต่จนแล้วจนรอดก็อดคิดกดดันตัวเองให้มีอาการเครียดเหมือนเดิม
แต่ลองกลับมาคิดดูแล้ว จริงๆ ไม่จำเป็นที่เราจะต้องมีความเครียดเสมอไป และน่าจะพูดเสียใหม่ว่า
ใครๆ ก็มีปัญหากันทั้งนั้น ถึงน้อยนิดถ้าใส่ใจไว้คิด ก็สามารถทำให้เครียดได้ทุกเมื่อ
ไม่ได้หมายความว่าให้ลืมปัญหาสิ้น ด้วยการดื่มน้ำเมาให้เกิดอาการลืมปัญหา(ชั่วคราว)แต่อย่างใด แต่กำลังจะบอกว่า ปัญหาอะไรก็ตามที่อยู่เหนือการคาดเดาและการควบคุมได้ก็อย่าเก็บใส่ใจไว้อย่างนั้น เพราะมันจะกลายเป็นตะกอนในก้นบึ้งของใจ ทำให้ใจขุ่นข้องหมองหม่นเปล่าๆ
ตรงกันข้าม หากมากด้วยปัญหาแต่หลีกลี้หนีข้าม สักวันมันจะกระโจนเข้าใส่แบบไม่ทันให้ตั้งตัว เหมือนภูเขาไฟระเบิด ลาวาร้อนไหลเร็ว รู้ตัวอีกทีก็ไม่มีทางแก้ หาทางออกไม่ได้ เครียดกดดันจนเสียสติไป ไม่ได้พูดเกินจริง แต่มันเกิดขึ้นได้จริง
ตั้งใจจะเขียนเรื่องเบาๆ ไหงกลับกลายเป็นเรื่องปัญหาชีวิตเสียได้
นาฬิกาบอกเวลาว่าจะเป็นเวลาของวันพรุ่งนี้แล้ว ยังไม่ได้แปรงฟัน ยังไม่ได้อาบน้ำ ยังไม่ได้ทำอะไรหลายอย่าง
ภาพใบไม้ไหว ในฉากหลังของฟ้าสว่างไร้เมฆ นกผกบินเป็นฝูงอยู่ลิบๆ แวบเข้ามา
'นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้นั่งมอง' เสียงในใจดังขึ้นอย่างเงียบงัน
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เครียดเสียเมื่อไหร่ คิดแล้วเครียดและกดดันกว่าตอนนี้หลายขุมอยู่เหมือนกัน แต่เพราะไม่เก็บมาคิด เพราะคิดวนไปวนมาก็ไม่ทำให้ได้งานที่ต้องการเร็วขึ้น ซ้ำยังจะสร้างความกังวลให้กับตัวเองโดยไม่จำเป็นอีกต่างหาก
ใครๆ ก็มีความเครียดกันทั้งนั้น ถึงน้อยนิดถ้าใส่ใจไว้คิด ก็กลายเป็นเรื่องเครียดมหึมาให้ใจได้เหมือนกัน ใช่ว่าไม่รู้ตัวกัน แต่จนแล้วจนรอดก็อดคิดกดดันตัวเองให้มีอาการเครียดเหมือนเดิม
แต่ลองกลับมาคิดดูแล้ว จริงๆ ไม่จำเป็นที่เราจะต้องมีความเครียดเสมอไป และน่าจะพูดเสียใหม่ว่า
ใครๆ ก็มีปัญหากันทั้งนั้น ถึงน้อยนิดถ้าใส่ใจไว้คิด ก็สามารถทำให้เครียดได้ทุกเมื่อ
ไม่ได้หมายความว่าให้ลืมปัญหาสิ้น ด้วยการดื่มน้ำเมาให้เกิดอาการลืมปัญหา(ชั่วคราว)แต่อย่างใด แต่กำลังจะบอกว่า ปัญหาอะไรก็ตามที่อยู่เหนือการคาดเดาและการควบคุมได้ก็อย่าเก็บใส่ใจไว้อย่างนั้น เพราะมันจะกลายเป็นตะกอนในก้นบึ้งของใจ ทำให้ใจขุ่นข้องหมองหม่นเปล่าๆ
ตรงกันข้าม หากมากด้วยปัญหาแต่หลีกลี้หนีข้าม สักวันมันจะกระโจนเข้าใส่แบบไม่ทันให้ตั้งตัว เหมือนภูเขาไฟระเบิด ลาวาร้อนไหลเร็ว รู้ตัวอีกทีก็ไม่มีทางแก้ หาทางออกไม่ได้ เครียดกดดันจนเสียสติไป ไม่ได้พูดเกินจริง แต่มันเกิดขึ้นได้จริง
ตั้งใจจะเขียนเรื่องเบาๆ ไหงกลับกลายเป็นเรื่องปัญหาชีวิตเสียได้
นาฬิกาบอกเวลาว่าจะเป็นเวลาของวันพรุ่งนี้แล้ว ยังไม่ได้แปรงฟัน ยังไม่ได้อาบน้ำ ยังไม่ได้ทำอะไรหลายอย่าง
ภาพใบไม้ไหว ในฉากหลังของฟ้าสว่างไร้เมฆ นกผกบินเป็นฝูงอยู่ลิบๆ แวบเข้ามา
'นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้นั่งมอง' เสียงในใจดังขึ้นอย่างเงียบงัน
ความคิดเห็น
ได้แต่ "สวัสดีหน้าจอคอมพิวเตอร์!"
^^!
จน
แต่ไม่มาวววว!
จริงจัง แต่ อย่าเครียด
ปล่อยวาง แต่ อย่าปล่อยปละ
อยากให้คุณมีความสุขและรอยยิ้ม