แห้วกินใจ

ถึงจะเปลี่ยนชื่อ 'แห้ว' เป็น 'สมหวัง' แห้วก็ยังเป็นแห้วอยู่ดี

และถึงใครจะกินแห้วก็ไม่ได้แปลว่าความรักของคนนั้นจะแห้วดามไปด้วยเสียเมื่อไหร่ เหมือนกับคนที่ทั้งชีวิตไม่ขอกิน 'ระกำ' เพราะกลัวว่าชีวิตจะต้องระกำชำชอก หรือ ชาวสวนไม่ปลูกระกำเพราะกลัวว่าจะต้อง ตกระกำลำบาก เปลี่ยนมาปลูก 'สละ' แทน เดี๋ยวนี้เราจึงได้กินสละบ่อยกว่าระกำ เกษตรกรท่านใดเชื่อเรื่องพวกนี้ก็คงอดตายแน่นอน

ใครริจะลิ้มรสรัก มีไม่น้อยที่ได้รสแห้วไปลองลิ้มก่อน เป็นรสชาติของความผิดหวังโดยเฉพาะในเรื่องความรัก อาการนี้บรรยายความรู้สึกค่อนข้างยากเพราะมีหลายกรณีและอาจเกิดจากหลายสาเหตุ จึงทำให้มีหลายอารมณ์ แต่พอบอกว่า 'แห้ว' คำเดียวก็เข้าใจได้ทันที

ไม่รู้ว่าแห้วนี้โยงมาอยู่ในเรื่องความรักได้อย่างไร ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็ยังใช้กันเรื่อยมาแม้ไม่ได้อินอยู่ในกระแสของคำศัพท์แสลงของวัยรุ่นในรุ่นนั้นๆ แต่มันก็ยังถูกหยิบยกขึ้นมาอธิบายอารมณ์ผิดหวัง พลาดเป้าในเรื่องอื่นๆ นอกจากเรื่องรักใคร่อีกด้วย แต่ในกรณีนี้เราจะเน้นไปความหมายที่เกี่ยวข้องกับความรักความใคร่

เมื่อเราเริ่มต้นปฏิบัติการจีบเมื่อไหร่ คุณก็ถือเป็นบุคคลที่มีสิทธิ์แห้วได้แล้ว ถ้าคิดจะจีบคนที่ไม่รู้จัก ไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน ซึ่งประโยคแรกอาจกลายเป็นประโยคสุดท้ายที่ได้คุยก็เป็นได้ อย่าเพิ่งด่วนสรุปนั่นอาจจะเป็น 'แห้วปลอม' ก็ได้ ถ้าได้คุยกันมากขึ้นก็ทำให้รู้จักกันมากขึ้น คุยกันถูกคอ ทีนี้เราก็สานต่อได้ไม่ยาก ให้คิดไว้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีได้เจอคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีคุยด้วยกันฉันเพื่อนตั้งแต่ประโยคแรก ยิ่งถ้าไม่มีเรื่องให้ต้องคุยกันเช่นคนที่ทำงานด้วยกัน หรือเป็นเพื่อนของเพื่อน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะผ่านประโยคแรกไปได้อย่างง่ายดายแน่นอน

เมื่อประโยคต่อๆ ไปตามมา ความรู้สึกของเรายิ่งบอกว่าใช่ แต่หารู้ไม่ว่าความรู้สึกของเขานั้นเฉยๆ ก็เป็นแค่เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนร่วมห้องเรียนเท่านั้น แต่เรายังแสดงออกอย่างนอกหน้า เขาอาจจะเริ่มจะรู้สึกแปลกๆ กับเรา นั่นเป็นเพราะว่าเราแสดงออกมาเร็วเกินไป นอกหน้าเกินงาม คุณมีความเสี่ยงที่จะแห้วอีกแล้ว
บางคนอาจเจอกรณีที่เขาหนีหน้าไปเฉยๆ โทรไปหา เขาก็ไม่อยากรับเพราะกลัวว่าเราจะคิดมากไปกว่าความเป็นเพื่อนที่เขาต้องการ ถ้าอย่างนี้แล้วให้ทำใจได้เลยว่าโอกาสแห้วของเรามาถึงอีกแล้วเช่นกัน

แต่! มันก็ยังพอมีโอกาส สำหรับคนที่มั่นใจว่าเขาใช่แน่นอน จงพยายามต่อไป และให้กำลังใจตัวเองว่า ยังสามารถแก้สถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ได้อยู่

สถานการณ์แบบนี้มันไม่ได้เป็นแบบที่ใจเราต้องการ ฉะนั้นเราต้องทำใจและยอมรับความจริงก่อนว่า เขาไม่ได้รู้สึกกับเราอย่างที่เรารู้สึกกับเขา แล้วหาโอกาสบอกให้เขาเย็นใจๆ ว่าเราไม่ได้คิดเกินกว่าเพื่อนอย่างที่เขาเข้าใจ และเราก็ต้องทำอย่างที่บอกเขาไปให้ได้ ถึงแม้ว่าใจจะคิด ก็ต้องพยายามไม่แสดงออก

ซึ่งเป็นธรรมดาอยู่แล้วว่าเขายังไม่มั่นใจในคำพูดของเราแน่นอน ตรงนี้เองที่ต้องใช้ความอดทนอาจจะนานเป็นปีๆ เลย ผมถึงแนะนำให้ใช้สำหรับคนที่คิดว่าเขาใช่จริงๆ เท่านั้น หากว่ามีหนุ่มอื่นหรือสาวใดผ่านเข้ามาแล้วถูกใจกว่าเราก็ยัง ได้เขาคนนั้นเป็นเพื่อนให้คำปรึกษาเราอยู่ เรียกว่าไม่เสียเพื่อนว่างั้นเถอะ


แต่กรณีที่เรียกว่าแห้วของแท้ของจริง ก็ต้องรู้แน่ว่าเขามีคู่เป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว นี่คือแห้วจริงๆ เลิกคิดไปแย่งแฟนชาวบ้านดีกว่า คนที่ดีกว่าและเข้าใจเรามากกว่าซึ่งไม่มีแฟนนั้นยังมีอยู่ อย่าได้ไปริเริ่มปฏิบัติการจีบเลย ผิดศีลเปล่าๆ และเวรกรรมในเรื่องความรักก็มีจริงเสียด้วย ปล่อยให้คนที่ไร้ศีลธรรมเหล่านั้นปฏิเสธคำว่าแห้วและเดินไปรับคำว่าโฉดชั่วไปก็แล้วกัน

ผมเคยเจอกรณีแห้วแท้ๆ นี้อย่างเร็วที่สุดกับตัวเอง ในประโยคแรกของปฏิบัติการจีบ

ผมถาม เธอที่นั่งกินขนมและกำลังอ่านหนังสืออยู่ว่า
"กำลังรอใครเหรอ?"

ใบหน้าเธอยิ้มเป็นมิตรด้วยความที่คุ้นหน้าเพราะเรียนคณะเดียวกัน เธอตอบว่า "รอแฟนน่ะ"

บทสนทนานี้สอนให้รู้ว่าอย่าถามถึงบุคคลที่สามในประโยคการจีบเด็ดขาดไม่อย่างนั้นคุณมีสิทธิ์จะได้แห้วคำโตเลยทีเดียว

ถ้าแห้วของคุณไม่ใช่กรณีที่เขามีแฟนแล้ว นั่นแสดงว่าใจของคุณแห้วไปเอง อย่ากลัวความผิดหวังถ้าคุณยังไม่ได้หวังอะไรเลย อย่าให้ต้นแห้วเจริญงอกงามในใจคุณ

ลองเอาอย่างประโยคที่เราได้ยินกันบ่อยๆ สิครับ 'ตื้อเท่านั้นที่จะสมหวัง' ใช่ผมเชื่ออย่างนั้น แต่ต้องเป็นการตื้ออย่างมีศิลปะ ไม่ใช่การเสนอหน้า ไม่ใช่การป้อนคำหวานเลี่ยนๆ แต่มันคือการทำให้ตัวเองมีคุณค่าขึ้น จริงอยู่หน้าตามันพัฒนากันได้ไม่เท่าไหร่แต่เรื่องความสามารถ สติปัญญา ความดีงาม มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ความรู้สึกดีๆ กับตัวเอง ฯลฯ เหล่านี้จะทำให้ตัวเรามีคุณค่ามากขึ้น

อย่าได้ดูถูกตัวเองเป็นอันขาด ไม่แน่คุณอาจจะกลายเป็นคนแจกแห้วให้ใครๆ กินก็ได้ใครจะรู้

ความคิดเห็น

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า
เคยแห้วกลางอากาศเหมือนกันค่ะ แต่เป็นการแห้วแบบจงใจ เพราะรู้ว่าคนถูกถามมีแฟนแล้ว แต่เราก็ยังจะสะเออะไปถามเขาว่า ..

"แฟนน่ารักมั้ยคะ!"

แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า ..

"น่ารักครับ!"

ตึงงงง ..
จบข่าว

Populars